อาหารเสริม วิตามิน บี 6 หรือไพริดอกซิน (Pyridoxine) พบในยีสต์
ไข่ เนื้อสัตว์ ขนมปัง ธัญพืช ถั่ว ปลา ตับ ข้าวซ้อมมือ นม กล้วย และผัก
วิตามิน บี 6 ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน
สร้างเนื้อเยื่อและการเจริญเติมโต เผาผลาญไขมันและคาร์โบไฮเดรต ให้เป็นพลังงาน
ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ช่วยบำรุงผิวหนัง
เป็นสารที่จำเป็นในการทำงานองระบบประสาท หากในเด็กขาดจะทำให้เรียนรู้ช้า
ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง (ฮีโมโกลบิน) บรรเทาอาการเจ็บหน้าอกและปวดมดลูกก่อนมีประจำเดือน
ลดการคลื่นไส้ อาเจียนในสตรีมีครรภ์ การศึกษาเชิงระบาดวิทยาพบว่า วิตามิน บี
6
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ วิตามิน บี 6 วิตามิน บี
12 และโฟเลต
ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
วิตามิน บี 6 เป็นสารอาหารที่พบการขาดได้บ่อย การปรุงอาหารโดยความร้อนจะทำลายวิตามิน
50% นมผงที่ชงด้วยน้ำร้อนจะสูญเสียวิตามิน บี 6
ผู้สูงอายุและผู้ติดสุรามักจะขาด วิตามิน บี 6
ผู้ที่ควรได้รับวิตามิน บี 6 คือ ผู้รับประทานยาแก้ซึมเศร้า ยาคุมกำเนิด
ฮอร์โมนทดแทน ผู้แพ้ผงชูรส
ร่างกายต้องการวิตามิน บี 6 วันละ 2 มิลลิกรัม หากได้รับมากเกิน 2000 มิลลิกรัม
จะทำลายระบบประสาท ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า
อาหารเมื่อขาดวิตามิน บี 6 ทำให้ผิวหนัง อักเสบ คันตามผิวหนัง เกิดผื่น
เกิดสิว ปากแห้งแตก ลิ้นอักเสบ เล็บเป็นคลื่น ผมร่วง กระดูกผุ ข้อเสื่อม
ปวดตามมือตามอเท้า เกิดนิ่ว ประสาทเสื่อม ลมชัก นอนไม่หลับ หงุดหงิด ซึมเศร้า
อ่อนเพลีย เจ็บหน้าอก บวมก่อนมีประจำเดือน วิตามิน บี 6
สร้างโปรตีนให้ทารกในครรภ์ เมื่อแม่ขาดวิตามิน บี 6
ก็จะเกิดอาการอาเจียน ซึมเศร้า วิตามิน บี 6
จึงเป็นยาแก้แพ้ท้องและแก้อาเจียนจากการแพ้ท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
หากขาดวิตามิน บี 6 อาจะส่งผลให้การขาดวิตามินบี 3 ได้ เนื่องจากวิตามิน
บี 6 เปลี่ยนกรดอะมิโนทริปโทเฟน 69 มิลลิกรัมไปเป็นวิตามิน
บี 3 ได้ 1 มิลลิกรัม และการรับประทานข้าวโพดเป็นอาหารหลักจะทำให้ขาดวิตามิน บี
3 เพราะข้าวโพดมีทริปโทเฟนต่ำ
No comments:
Post a Comment