Tuesday, July 8, 2014

วิธีการเลือกซื้ออาหารเสริม กับธุรกิจ ขายอาหารเสริม

รูป ขายอาหารเสริม

ไม่ว่าใครต่างก็รักสุขภาพด้วยกันทั้งนั้น ทั้งคนป่วยก็อยากหาย คนไม่ป่วยก็อยากให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บ ผู้คนจึงแสวงหาสิ่งที่จะช่วยให้ตนเองมีสุขภาพดี นอกจากสุขภาพแล้วก็ยังต้องการให้สมองดี ผิวพรรณดี เสริมสรร้างรูปร่าง ลดน้ำหนัก ไปจนถึงเพาะกายเพิ่มกล้ามเนื้อ ความต้องการเหล่านี้ทำให้ ธุรกิจ ขายอาหารเสริม เติบโตอย่างมาก มีมูลค่าตลาดในไทยราวสองหมื่นล้านบาท และมีการเจริญเติมโตสูงขึ้น 10% ทุกๆปี โดยเฉพาะ อาหารเสริม ประเภท เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย (Functional drinks) ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวถึง 50% จากมูลค่าตลาด 2000 ล้านบาท ไปเป็น 3000 ล้านบาท และอีกเหตุผลหนึ่งคือการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้น ง่ายกว่าการขอขึ้นทะเบียนยามากๆ มียอดจำหน่ายสูงกว่ายา และยังวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ ได้ง่ายและใช้ทุนต่ำกว่ายาหลายร้อยเท่า จึงทำให้มีบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและบริษัทข้ามชาติต่างนำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมา ขาย จำหน่ายกันมากขึ้น ด้วยการแข่งขันที่สูง บริษัทต่างๆ จึงได้นำกลยุทธทุกด้านมาใช้เพื่อให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเสริม ของตนครองส่วนแบ่งในตลาด ซึ่งหมายถึงกำไรอันมหาศาล จขึงทุ่มทุนโฆษณาในทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ นิตยสารสุขภาพและความงาม นิตยสารสุขภาพความงาม จัดรถประชาสำพันธ์เคลื่อนที่ จัดกิจกรรมต่างๆ ตามที่สาธารณะ จ้างดารามาเป็นพรีเซนเตอร์ ขายอาหารเสริม ซึ่งค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ขายอาหารเสริม นั้นเป็นมูลค่าหลายสิบถึงหลายร้อยล้านบาท แต่ผู้ผลิตอาหารเสริม ก็มีกำไรหลายร้อยเท่าตัว และด้วยการแข่งขันที่รุนแรงมาก บริษัทขายอาหารเสริม ก็จะใช้กลยุทธในการโฆษณาขายอาหารเสริม แบ่งเป็นรูปแบบใหญ่ๆด้วยกัน 2 แบบในการ ขายอาหารเสริม
1 แบบวิชาการ
บริษัทขายอาหารเสริม ที่ผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีคุณภาพ จะนำเสนอประโยชน์ ของผลิตภัณฑ์ที่มีงานวิจัยสนับสนุน ใช้ในการอ้างอิงเพื่อให้ข้อมูลแก่ลูกค้า บริษัทขายอาหารเสริมเหล่านี้จะมีการทำวิจัยร่วมกับนักวิชาการ นักโภชนาการ แพทย์ และเภสัชกร มีการทดสอบผลทางวิทยาศาสตร์ ผลทางคลินิก บริษัทเหล่านี้จะมีโรงงานผลิตอาหารเสริม และกรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีการโฆษณาตามระเบียบข้อบังคับของสำนักคณะกรรมการอาหารและยาผู้บริโภคจึงได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ทั้งข้อมูลที่ถูกต้อง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีมาตรฐานปลอดภัย และสามารถฟ้องร้องผู้ผลิตได้ในกรณีได้รับความเสียหาย
2 แบบชวนเชื่อ
บริษัทประเภทนี้เน้นแต่การแสวงหากำไรจากการเติบโตของความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ทุ่มโฆษณาและเป็นการโฆษณา ขายอาหารเสริม ที่หลอกลวง ซึ่งพบมากตามอินเตอร์เน็ต เคเบิลทีวี และการขายตรง โดยอวดอ้างสรรพคุณ เกินจริงจนไม่มีงานวิจัยรองรับ ทำให้ผู้บริโภคที่หลงเชื่อคำโฆษณา เหล่านั้นได้รับสารพิษ ไม่ได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์นั้น เสียโอกาสที่จะได้รับการศึกษาอย่างถูกต้อง บางรายถึงขั้นเสียชีวิต
บริษัทประเภทนี้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และขายอาหารเสริมที่ไม่ได้คุณภาพ หรือ โฆษณาเกินจริงจนไม่สามารถแสดงสรรพคุณเหมือนที่กล่าวด้วยคำลงในฉลากบรรจุภัณฑ์ จะพบว่าผู้ขายอาหารเสริม อ้างว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของเขารักษาอาหาร รักษามะเร็ง แต่จะไม่มีข้ออ้างดังกล่าวปรากฏบนฉลากบรรจุภัณฑ์ วิธีพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้นมีสรรพคุณอย่างไรให้ดูที่ฉลากอาหารเสริม หากฉลากอาหารเสริม นั้นมีเครื่องหมาย อย. รับรอง หรือ GMP จะมีข้อความแสดงสรรพคุณอยู่ สรรพคุณของอาหารเสริม จะมีอยู่จริงตามข้อความ ไม่ใช่จากคำพูดของผู้ขาย ธุรกิจประเภทนี้จะอาศัยการอวดอ้างสรรพคุณกันด้วยปากจากผู้ขายไปสู่ผู้ซื้อ จะโฆษณากันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตามสิ่งพิมพ์ของบริษัท เคเบิลทีวี อินเทอร์เน็ต ติดตามเสาไฟฟ้า หรือ ระบบขายตรง ไม่มีการวิจัยร่วมกับนักวิชาการ นักโภชนาการ แพทย์ หรือเภสัชกร ไม่มีผลทดสอบทางวิทยาศาสตร์ หรือผลทดลองทางคลินิก แต่จะตั้งกลุ่มคนขึ้นมา 5-6 คนเป็นหน้าม้า แสดงให้เห็นว่าป่วยด้วยโรคต่างๆ หลังจากนั้นก็กินผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยี่ห้อนี้เข้าไป แล้วอาการดีขึ้น หายจากเบาหวาน แผลหายจากการเน่า ไม่ต้องตัดขาทิ้ง ซึ่งผู้ที่ดูโฆษณาจากเคเบิลทีวี หลายรายหลงเชื่อ ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าเหตุผลที่เขาหายจากเบาหวานนั้นมาจากการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจริงหรือไม่ ลองคิดดูเอาเองง่ายๆ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่รักษาทุกโรค ให้ผลการรักษาที่ดีกว่ายาในโรงพยาบาล รักษาได้ตั้งแต่เบาหวาน ความดัน อัลไซเมอร์ ไม่มีเรี่ยวแรง ไปจนถึงมะเร็ง ถ้ามันดีจริงแพทยในโรงพยาบาลคงจะสั่งซื้อไปใช้แทนยาแล้วค่ะ จงระวังอย่าตกเป็นเหยื่อคำโฆษณาเกินจริง
ตัวอย่างที่พบบ่อยมากในเคเบิลทีวีคือ เอนไซม์ ที่ชวนเชื่อว่ารักษาได้ตั้งแต่ไขมันสูง ความดัน อัมพฤกษ์ อัมพาต ริดสีดวง โรคหัวใจ อัลไซเมอร์ โรคไต นิ่ง มะเร็ง ภูมิแพ้ ตับแข็ง น้ำในหูไม่เท่ากัน แพ้ภูมิตัวเอง และอีกหลายโรค จนหาโรคที่รักษาไม่ได้ไม่มี แล้วคุณยังจะเชื่ออีกหรือ
จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เอนไซม์ที่เขาขายกันนั้นคือ โบรมีเลน ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ได้มาจากสับปะรด มีคุณสมบัติในการย่อยโปรตีน ให้เล็กลง นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร หมักเนื้อสัตว์ให้นุ่ม ไม่มีสรรพคุณในการรักษาโรคมะเร็ง อัมพฤกษ์ อัมพาต ริดสีดวง โรคหัวใจ อัลไซเมอร์ ตับแ ข็ง น้ำในหูไม่เท่ากัน ทำไมเราต้องเสียเงินซื้อเอนไซม์นี้ ในราคากล่องละ 3000 บาท ทั้งๆที่ไม่ได้รับประโยชน์แตกต่าง จากการรับประทานสับปะรดสดๆ เลย
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ กาแฟลดความอ้วน มีการลักลอบขายในอินเทอร์เน็ต ซึ่งพบว่าแอบใส่ยาลงไป เช่น แอมเฟตามีน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยาบ้า และยังใส่ยาลดความอ้วนที่ชื่อ ไซบูทรามีน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ถอนออกจากทะเบียนยาแล้ว เพราะยาดังกล่าวมีพิษต่อการเกิดโรคหัวใจวาย และถึงขั้นเสียชีวิต

หากกาแฟมีการเติมใยอาหาร สมุนไพรช่วยระบาย ก็จะช่วยในการขับถ่ายได้ หรือเติมสารที่เร่งการเผาผลาญ เช่นวิตามินบี โครเมียม แอลคาร์นิทีน ก็จะช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยายังคงจัดเป็นเครื่องดื่ม ไม่สามารถโฆษณาว่าลดความอ้วนได้ อย่างไรก็ตามกาแฟชนิดนี้ก็ยังดีกว่าการดื่มกาแฟแคลอรีสูงทั่วๆไปนั่นเอง เลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง มีไขมันและน้ำตาลต่ำ และออกกำลังกายเพิ่มด้วยก็จะช่วยได้อีกทางหนึ่ง

No comments:

Post a Comment